สิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับ แคนาดา ก่อนไปใช้ชีวิตอยู่

สิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับ แคนาดา มีหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับประเทศแคนาดา ที่คนไทยเราอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อน หากน้องๆ กำลังวางแผนจะไปเรียน ท่องเที่ยว หรือใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศที่สวยงามและหนาวเย็นแห่งนี้ นี่คือข้อมูลดีๆ ที่น้องๆ ควรศึกษาเอาไว้ครับ

แคนาดามีประชากร 36.5 ล้านคน ส่วนใหญ่อพยพมาจากยุโรป โดยเฉพาะจากประเทศที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษและฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 ผู้อพยพจากเอเชีย มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเกือบจากแคริบเบียนและแอฟริกา แคนาดายังเป็นที่อยู่ของชนพื้นเมือง เช่น ชาวเอสกิโมและชาวเมทิส

เนื่องจากแคนาดาเป็นประเทศที่ใหญ่มาก จึงมีความหลากหลายสูงทั้งในด้านจำนวนประชากร สภาพพื้นที่ สภาพอากาศ และวิถีชีวิตของผู้คน อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมของแคนาดาให้ความสำคัญกับความภาคภูมิใจและความยึดมั่นในความเสมอภาค ความหลากหลาย และความเคารพเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน นี่คือค่านิยมหลักที่ทำให้แคนาดาเป็นมิตรมาก มีความสงบและปลอดภัยในการอยู่อาศัย ในมิติด้านศาสนา แคนาดาเปิดกว้างสำหรับการปฏิบัติและความเชื่อทางศาสนา โดยกว่า 20% ของประชากรรายงานว่าไม่มีศาสนา

 

สิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับ แคนาดา ประเทศแคนาดา เป็น bilingual country

 

สิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยกับ แคนาดา ใช่ แคนาดามีภาษากลางหรือ ภาษาราชการสองภาษา รวมทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกเมืองหรือทุกเมืองที่สามารถพูดได้ทั้งสองภาษา มีประชากรเพียง 17.5% ของประเทศเท่านั้นที่พูดได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ตามข้อมูล มีเพียงนิวบรันสวิกเท่านั้นที่เป็นเมืองสองภาษาและภาษาราชการในควิเบกคือภาษาฝรั่งเศส ไม่ต้องกังวล ภาษาอังกฤษมีอยู่ทั่วไป (ยกเว้นเด็กจะไปโรงเรียนในหมู่บ้านเล็กๆ ในชนบทของ Quebec)

 

Toronto ไม่ใช่เมืองหลวงของแคนาดา

 

แต่เป็น ออตตาวา ที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโตรอนโต เหตุใด ออตตาวาจึงต้องย้อนกลับไปในปี 1857 ที่สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียทรงเลือกออตตาวาเพราะเป็นเมืองที่อยู่ระหว่างมอนทรีออลและโตรอนโต ใกล้กับชายแดนออนแทรีโอและควิเบก (กลาง) เนื่องจากออตตาวาอยู่ห่างไกลจากชายแดนอเมริกา จึงมีอีกเหตุผลหนึ่ง ซึ่งจะปลอดภัยกว่าหากแคนาดาถูกโจมตี ชื่อประเทศ “แคนาดา” มาจากคำว่า “คานาตา” ซึ่งเป็นภาษาของชนเผ่าอิโรควัวส์ที่อาศัยอยู่ในควิเบกตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 “ที่อยู่อาศัยหรือหมู่บ้าน” (ดูรายชื่อโรงเรียนสอนภาษาในโตรอนโต)

 

เป็นประเทศที่ซีเรียสเรื่อง “มารยาทและความสุภาพ” มาก

 

ชาวแคนาดาขึ้นชื่อเรื่องเคร่งขรึม ความสุภาพและมารยาทเป็นสิ่งสำคัญมากใน วัฒนธรรมของประเทศ คุณควรเรียนรู้ที่จะพูดว่า “ได้โปรด” และ “ขอบคุณ” นี้จะพูดเป็นภาษาอังกฤษเคลือบน้ำตาลหรือทางอ้อม ไม่ชอบพูดรุนแรง ขวานผ่าซาก หรือตรงๆ เพราะจะถือว่าไม่สุภาพ

อีกอย่างที่ละเอียดอ่อนมากและต้องระวังก็คือการแยกแยะระหว่างคนแคนาดากับอเมริกันอย่าเอาแต่พูดในสิ่งที่สื่อพูด แคนาดาเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา หรืออะไรทำนองนั้น ชาวแคนาดาก็คล้ายกัน ด้วยผู้คนแต่ละประเทศภาคภูมิใจในชาติของตน พวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงว่าเป็นคนอ่อนโยนและอดทน (อ่าน 5 ประโยคปฏิเสธอย่างสุภาพเมื่อไปศึกษาต่อต่างประเทศและต่อสู้กับอาการช็อกจากวัฒนธรรม)

 

การให้ทิป ถือเป็นธรรมเนียมควรปฏิบัติ

 

เมื่อพูดถึงการให้ทิป เป็น ธรรมเนียมในแคนาดาที่จะให้ทิป 15% ขึ้นไปเมื่อใช้บริการต่างๆ เช่น แท็กซี่ ร้านอาหาร ร้านตัดผม และบาร์ ไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่เอาชนะ เพราะชาวแคนาดาจะทำก็ต่อเมื่อบริการแย่ที่สุดเท่านั้น หรือบริษัทผู้ให้บริการเกิดความไม่พอใจอย่างมาก.

 

ขึ้นชื่อในเรื่องของความเป็นมิตร

 

ในขณะที่ชาวอังกฤษเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นคนอนุรักษ์นิยม แต่ชาวแคนาดายังเป็นที่รู้จักว่าเป็นมิตร สดใส นอกจากนี้ ฝึกนิสัยช่วยเหลือเด็ก ๆ เพื่อไม่ให้พวกเขากังวลเกี่ยวกับอารมณ์ของพวกเขา แคนาดายังได้รับเลือกให้เป็นประเทศที่มีการศึกษามากที่สุดในโลกโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา โดยมีประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ ได้รับปริญญาตรี

 

เป็นหนึ่งในประเทศที่มีสภาพแวดล้อมดีที่สุด

 

จากรายงานล่าสุดของ World Health Organization (WHO) แคนาดา อยู่ในอันดับที่ 3 ของประเทศที่มีอากาศบริสุทธิ์ที่สุด เนื่องจากมีพื้นที่กว่า 30 % ของประเทสคือพื้นที่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งนอกจากจะให้อากาศที่บริสุทธิ์แล้ว ยังเป็นแหล่งธรรมชาติที่งดงามขึ้นชื่ออีกด้วย

ปัจจัยอีกอย่างหนึ่งก็คือ ที่นี่ ห้ามไม่ให้มีการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ราชการ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล สำนักงานต่างๆ และพื้นที่ส่วนกลางในย่านพักอาศัย (คล้ายๆ บ้านเรา แต่เข้มงวดในการจับปรับมากกว่า)

 

เวลาในประเทศ แบ่งออกเป็น 6 Time Zones

 

สิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยกับ แคนาดา  เนื่องจากประเทศแคนาดา เป็นประเทศที่มีอาณาเขตกว้างขวางเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จึงต้องแบ่งไทม์โซนออกเป็น 6 เขต ได้แก่ Pacific Standard (PST), Mountain Standard (MST), Central Standard (CST), Eastern Standard (EST), Atlantic Standard (AST) และ Newfoundland Standard (NST) ดังนั้น น้องๆ ควรศึกษาเรื่องไทม์โซนให้ดี ว่าเมืองที่น้องๆ จะไปนั้นอยู่ในไทม์โซนใด เพื่อป้องกันการสับสนเรื่องเวลา

เพื่อเป็นไอเดียคร่าวๆ ว่าเมืองไหนอยู่ในไทม์โซนไหน จะขอยกตัวอย่างเมืองดังๆ ที่คนไทยนิยมไปศึกษาต่อ ท่องเที่ยวหรืออยู่อาศัยแล้วกันนะครับ เช่น Vancouver (PST), Edmonton (MST), Winnipeg (CST), Toronto (EST), Halifax (AST), St. John’s (NST) เป็นต้นครับ

 

บทความแนะนำ